ขนมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงรากเหง้าและวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี การสร้างสรรค์ขนมอร่อย ๆ ที่มีหน้าตาสวยงามชวนรับประทานขึ้นมานั้นล้วนมีประวัติที่น่าสนใจมากมาย และในบทความนี้เราจะนำคุณผู้อ่านมาเจาะลึกถึงขนมไทยโบราณที่หาทานได้อย่างยากมากในปัจจุบันนี้ และไม่ค่อยมีคนรู้จักกันแล้ว ซึ่งนอกเหนือไปจากความหายากแล้วขนมไทยบางชนิดก็มีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากทำได้ยากอีกด้วย ขนมไทยในอดีตแม้จะไม่ค่อยมีส่วนผสมที่พิสดารหรือหายาก แต่กระบวนวิธีการทำนั้นค่อนข้างละเอียดและต้องใช้ความแม่นยำความชำนาญในระดับสูงเลยทีเดียว ซึ่งขนมไทยโบราณที่น่าสนใจจะมีขนมประเภทใดบ้าง ต้องลองเข้ามาติดตามกันในบทความนี้
1. กระเช้าสีดา
สำหรับขนมไทยโบราณชนิดนี้หลาย ๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่เป็นขนมชนิดหนึ่งที่มีความน่ารักเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งออกแบบมาให้มีรูปร่างคล้ายกับกระเช้าและภายในมีดอกไม้หลากสีสันอยู่นั่นเอง โดยมีที่มาจากต้นกระเช้าสีดาในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ บริเวณตัวกะเช้านั้นจะทำมาจากแป้งซึ่งขึ้นรูปสวยงามคล้ายกับกระเช้า และภายในมีของบรรจุอยู่ภายในกระเช้านั้น ซึ่งทำเป็นไส้ขนม ไส้ขนมทำจากมะพร้าวขูดผสมน้ำตาลทรายได้รสชาติหวานมันอร่อย ส่วนสีของมะพร้าวขูดก็สามารถนำไปผสมกับสีผสมอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสีชมพู, สีเหลือง, สีเขียว, สีส้ม และสีฟ้าทำให้แลดูมีความสวยงามน่ารักน่ารับประทาน
2. ขนมดอกอัญชัญ
น้ำอัญชันสามารถนำมาทำเป็นสีผสมอาหารจากธรรมชาติได้ และในขณะเดียวกันก็ยังนำมาทำเป็นขนมแสนอร่อยได้อีกด้วย มีลักษณะเป็นเนื้อนุ่มหนึบมีความหวานตัดกับความเค็มได้เป็นอย่างดี บริเวณหน้าขนมจะตกแต่งด้วยกะทิเพิ่มความมัน พร้อมประดับประดาด้วยขนมไข่แมงดาซึ่งทำให้มีความสวยงามคล้ายกับดอกไม้ดอกเล็ก ๆ ตัวเนื้อขนมทำมาจากเนื้อแป้งมีความเด้งดึ๋งสู้ฟัน ทำให้เวลาเคี้ยวผสมไปพร้อมกับหน้ากะทิแล้วกลมกล่อมทานไม่รู้เบื่อ
3. ขนมเรไรหรือรังไร
เป็นอีกหนึ่ง ขนมไทย โบราณที่เคยมีชื่อปรากฏอยู่ในกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวานในสมัยรัชกาลที่ 2 โดยจากการสืบทราบประวัติขนมชนิดนี้มีอายุมาอย่างยาวนานเกือบ 200 กว่าปีเลยทีเดียว ซึ่งตัวขนมมีสีสันนวลสวยงาม มีทั้งสีเหลือง, สีเขียว, สีชมพูและสีฟ้าอ่อนหรือถ้าอ้างอิงจากการเรียกชื่อสีในปัจจุบันนี้ก็คือสีพาสเทล มีลักษณะคล้ายกับรังนกเล็ก ๆ น่ารักสวยงาม มีส่วนประสมที่ทำมาจากแป้ง, กะทิ, มะพร้าวและน้ำตาลเท่านั้นเอง ซึ่งขนมชนิดนี้มีที่มาจากในวังมีรสชาตินุ่มนวลลิ้นหอมกลิ่นน้ำลอยดอกมะลิและกะทิที่เข้มข้น ซึ่งวิธีทำนั้นไม่ง่ายเลยและจะต้องใช้เครื่องอัดขนมเรไรทำมือ ซึ่งมีให้เลือกหลายขนาด ขั้นตอนการอัดขนมเป็นขั้นตอนสำคัญคือเส้นจะต้องสวยไม่ขาดเป็นก้อนกระจุกน่ารัก
4. ขนมหม้อตาล
ต้องขอบอกก่อนเลยว่าขนมชนิดนี้ไม่มีความคล้ายคลึงกับขนมหม้อข้าวหม้อแกงเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้จะมีชื่อเรียกนำหน้าว่าหม้อเหมือนกันก็ตาม โดยในอดีตขนมไทยโบราณชนิดนี้มักจะนำไปใช้ประกอบพิธีงานมงคลสมรส ซึ่งจะมีการปั้นแป้งให้คล้ายถ้วยขนาดเล็กและบรรจุไส้ที่ทำจากน้ำตาลทรายมีสีสันสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้าอ่อน, สีเขียวอ่อนหรือสีชมพูซึ่งจัดเป็นขนมที่ให้รสชาติเต็มไปด้วยความหวานและกรอบจากแป้งที่ทำมาเป็นรูปทรงหม้อ เหมาะแก่การนำไปประกอบพิธีงานแต่งงานอย่างแท้จริง ซึ่งเต็มไปด้วยความรักอันสุดแสนหวานชื่น
5. ขนมหันตรา
เป็นขนมโบราณอีกชนิดหนึ่ง ที่ถึงแม้จะใช้ส่วนผสมไม่มากสักเท่าไหร่ แต่ขั้นตอนการทำนั้นค่อนข้างที่จะต้องใช้ฝีมือเลยทีเดียว ขนมชนิดนี้จะพบได้ในงานหมั้น ซึ่งเปรียบเสมือนว่ามีการจองหญิงผู้นั้นมาเป็นคู่หมั้นแล้ว ซึ่งขนมชนิดนี้จะต้องทำไส้ในและตารางไข่ที่นำมาห่อหุ้มภายนอก ซึ่งในส่วนของตารางไข่นี้แหละที่ทำได้ยาก เนื่องจากจะต้องทอเป็นแพสวยงามเส้นร้อยเรียงกันอย่างมีความสมดุล แลดูเป็นศิลปะในการทำอาหาร
การทำขนมไทยในอดีตจะใช้ส่วนผสมหรือองค์ประกอบเพียงแค่ไม่กี่อย่าง สำหรับส่วนผสมที่เรามักพบเห็นกันบ่อย ๆ เช่นกะทิ, ไข่เป็ด, น้ำตาลทราย, แป้งสาลี, สีผสมอาหาร, สีที่มาจากธรรมชาติ, แป้งข้าวเจ้า, แป้งข้าวเหนียว, แป้งเท้ายายม่อม, น้ำลอยดอกมะลิ, น้ำใบเตย, มะพร้าว และอื่น ๆ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่หาได้ง่ายในประเทศไทยสมัยก่อน แต่วิธีการทำนั้นละเอียดไม่แพ้ขนมจากต่างประเทศเลยทีเดียว และมักนำมาสร้างสรรค์เป็นขนมชิ้นตัดเป็นคำ ๆ ซึ่งสามารถทานได้เลยคำเดียวอย่างเอร็ดอร่อย
สรุปแล้วการสร้างสรรค์ขนมไทยโบราณนั้นก็มีความละเอียดเช่นเดียวกันกับ บาคาร่า และยังมีการออกแบบขนมให้มีรูปร่างที่น่ารักน่ารับประทานอีกด้วย ดังนั้นการเรียนรู้ขนมไทยในสมัยโบราณ และนำมาสร้างสรรค์ในยุคปัจจุบันให้ไม่สูญหายไปก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว และยังมีการนำไปสอดประสานกับวรรณกรรมไทยในหลาย ๆ เรื่องอีกด้วย ซึ่งขนมและวัฒนธรรมของไทยนั้นดำเนินไปพร้อม ๆ กัน
บทความโดย คาสิโน Allforbet