ในยุคที่เราต้องรักษามาตรการการเว้นระยะห่าง การลดการสัมผัส หรือการมาเจอกันนั้นถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งในสมัยนี้ เมื่อประชาชนต้องเผชิญกับปัญหาของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด19 ระลอกที่ 4 ในครั้งนี้ที่ถือได้ว่าเป็นเชื้อไวรัสที่รุนแรงมากกว่าการแพร่ระบาดรอบก่อนหน้านี้ เพราะในครั้งนี้นั้น เป็นการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด 19 เป็นสายพันธุ์ต่างๆ มากมาย เนื่องจากสายพันธุ์กลายพันธุ์ในครั้งนี้นั้น สามารถติดต่อได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้น จึงทำให้ระบบการทำงานของหลายๆ องค์กรนั้นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบไป รวมถึงกรมการขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ที่ในวันนี้ ได้มีการประกาศให้เปิดลงทะเบียนอบรมใบขับขี่ออนไลน์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อลดระยะห่างของการพบปะกันในสังคม ลดความแออัดในสังคม และช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อจากคนสู่คน
และในวันนี้เราจะมาพูดกันถึงขั้นตอนการสมัครลงทะเบียนอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ให้เพื่อนๆ ได้เตรียมพร้อมกับการเป็นเจ้าของใบขับขี่ใบแรกของเรากันเลย!!
ในการสมัครลงทะเบียนอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงแค่เราเข้าไปที่ Website ของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งในส่วนนี้ใครหลายคนมักจะบ่นกันว่าหาไม่เจอ ไม่รู้อยู่ตรงไหน เราของแนะนำว่า ให้เราไปที่ช่องค้นหาใน Google ได้เลยจ้า พิมพ์คำว่า “อบรมใบขับขี่ออนไลน์” เมื่อเราเข้าไปแล้ว ระบบจะให้เราทำการลงทะเบียนเข้าร่วมการอบรมใบขับขี่ออนไลน์
สำหรับการลงทะเบียนเข้าร่วมการอบรมใบขับขี่ออนไลน์นั้น ก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนใดๆ เพียงแค่เรากรอก หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เบอร์โทรศัพท์ วัน เดือน ปีเกิด เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเข้าร่วมการลงทะเบียนอบรมใบขับขี่ได้แล้วจ้า และสำหรับในครั้งต่อไปในการเข้ามาเช็คสถานณะของการอบรม เราก็จะใช้เพียงแค่ หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก พร้อมวันเดือนปีเกิด โดยวันเดือนปีเกิดนั้นจะให้ระบุดังนี้ 22082564 โดย 22 คือวันที่ ตามด้วยเดือนเกิด 08 (สิงหาคม) และลงท้ายด้วยปีเกิด ได้เลย
ในการอบรมสำหรับการทำใบอนุญาตขับขี่ออนไลน์นั้น เราสามารถเลือกหัวข้อการอบรมได้ตามแต่การนำใบขับขี่ไปใช้งานได้หลากหลาย โดยระบบของกรมการขนส่งทางบก ได้เปิดตัวเลือกการจัดการอบรมออกเป็นทั้งหมดถึง 4 ตัวเลือกด้วยกัน โดยแต่ละตัวเลือกนั้น สิทธิการใช้งานของใบอนุญาตขับขี่นั้นก็แตกต่างกันออกไปตามแต่การใช้งานของผู้สมัคร โดยการอบรมทั้ง 4 ตัวเลือกนั้นมีดังต่อไปนี้
1. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถยนต์สามล้อ) ใช้ระยะเวลาอบรมรวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง
ในการเลือกการอบรมใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลนี้ จะเป็นการขอใบอนุญาตที่ใช้ชื่อตรงตัวตามชื่อการอบรมเลยนั้นก็คือ เป็นการขอขับรถยนต์ส่วนบุคคล หรือส่วนตัวนั้นเอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นใบขออนุญาตขับรถที่คนทั่วไปสามารถใช้ได้ และจำเป็นต้องมีไว้เมื่อใช้ในการขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล โดยในการขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลนั้น จะห้ามนำไปใช้กับการรับจ้างบริการขับขี่รถยนต์ประเภท Taxi และ วินมอเตอร์ไซค์ นั้นเอง
2. ใบอนุญาตขับรถขนส่ง ใช้ระยะเวลาอบรมรวมทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง
สำหรับตัวเลือกการอบรมใบอนุญาตขับรถขนส่งนี้ เป็นการอบรมเพื่อขอใบอนุญาตใช้เพื่อทำงานให้บริการในการขับรถขนส่งสินค้าเท่านั้น นั้นก็คือ ห้ามขนส่งบุคคล หรือ มนุษย์ ส่วนนี้จะเป็นกลุ่มของผู้ที่ต้องการทำงานประเภทขนส่ง Kerry หรือ รถบรรทุกสินค้า เป็นต้น ในการทำงานบริการกลุ่มนี้นั้นจะต้องใช้ใบอนุญาตขับรถขนส่งเท่านั้น ห้ามใช้ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลมาใช้ในการขับรถขนส่ง มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นความผิดทางการจารจร บาคาร่า นั้นเอง
3. ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถจักรยายนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถยนต์สาธารณะ) ระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง
สำหรับกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นในการใช้ประกอบวิชาชีพของใครหลายๆ คน สำหรับผู้ที่ทำงานบริการด้านการขนส่ง การขับรถรับส่ง บุคคล หรือ มนุษย์ เช่น วินมอเตอร์ไซค์ และ Taxi นั้นเอง ในกลุ่มผู้ให้บริการกลุ่มนี้ มีความจำเป็นที่ต้องเข้าร่วมการอบรมเพื่อขอใบอนุญาตขับรถสาธารณะเท่านั้น เพราะกฎระเบียบในการขับรถให้บริการสาธารณะนั้น เป็นกฎระเบียบที่แตกต่างกันออกไปกับกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 เนื่องจากการขอใบอนุญาตขับรถสาธารณะนั้น จะมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับชีวิตของบุคคลร่วมด้วย ซึ่งความปลอดภัยนั้นจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการขับขี่ และให้บริการในการขับรถสาธารณะนั้นเอง
4. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ รถยนต์) ขาดต่ออายุเกิน 1 ปี ระยะเวลาอบรมรวมทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง
และในกลุ่มสุดท้ายนี้ จะเป็นการอบรมของผู้เข้าร่วมอบรมหน้าเก่าที่เคยมี ใบอนุญาตขับขี่ รถยนต์ส่วนบุคคลแล้วเท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้ต้องขอย้ำว่า เป็นการขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล เท่านั้น! ซึ่งในกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่เคยมี แบขาดการต่ออายุใบขับขี่เกินระยะเวลา 1 ปี เนื่องจากการขาดระยะเวลาการต่ออายุเกิน 1 ปี ระบบ และกฎระเบียบของการใช้รถใช้ถนนในบางข้อนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปบ้างเล็กน้อยแล้ว ผู้ขับขี่ควรจะเข้าร่วมการอบรมเพื่อรับฟังข้อมูลข่าวสารกฎระเบียบที่มีการปรับปรุงทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และถูกกฎจราจรในการขับขี่จ้า
ทั้งหมดนี้ก็คือการลงทะเบียนการเข้าร่วมการอบรมขอใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล รถขนส่ง และรถสาธารณะ เมื่อเพื่อนๆ ได้ใบรับรองการอบรมแล้ว ให้เพื่อนๆ Print เอกสารรับรองการอบรม พร้อมใบรับรองทางการแพทย์ว่าเราเป็นผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์ ยื่นเรื่องเพื่อของสอบการขับขี่ต่อที่กรมการขนส่งทางบกใกล้บ้านได้เลยจ้า